ในประเทศไทย “น้ำบาดาล” เป็นทรัพยากรทางธรรมชาติที่นิยมนำมาใช้กันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ใต้ดินที่มีการหมุนเวียนของน้ำให้เราได้ใช้กันอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี เพราะน้ำฝนที่ตกลงมาจะซึมกลับลงไปสู่ใต้ดินเสมอ
แล้วเพื่อน ๆ สงสัยกันไหมครับว่า “น้ำบาดาล” ที่ถูกสูบขึ้นมานั้นนำไปใช้ประโยชน์ หรือทำอะไรได้บ้าง? เราใช้ไปมากขนาดไหนแล้ว? เรายังมีน้ำบาดาลเหลืออยู่เท่าไร? และภูมิภาคไหนของประเทศไทยที่ใช้น้ำบาดาลมากที่สุด? รวมๆแล้ว สถานการณ์น้ำบาดาลในประเทศตลอดทั้งปี 2564 เป็นอย่างไรกันบ้าง
ประเทศไทยเรามีปริมาณน้ำบาดาลที่กักเก็บอยู่รวมทั้งหมดราว 1,137,713 ล้าน ลบ.ม.
มีการกักเก็บมากสุดที่ภาคกลาง 412,856 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 36.3%
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 241,312 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 21.2%
- ภาคใต้ 199,779 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 17.6%
- ภาคเหนือ 166,860 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 14.7%
- ภาคตะวันตก 63,710 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 5.6%
- ภาคตะวันออก 53,197 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 4.7%
ขณะที่ปริมาณน้ำบาดาลที่สามารถนำมาใช้ได้ตามที่กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนด(กรมน้ำบาดาล)จะมีปริมาณ 45,385 ล้าน ลบ.ม./ปี
ประเทศไทยถือเป็นประเทศเกษตรกรรม ดังนั้นน้ำบาดาลส่วนใหญ่จึงถูกนำไปใช้ในการทำการเกษตร ปศุสัตว์ การปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ต่าง ๆ เป็นต้น จึงมีความจำเป็นต้องใช้น้ำเป็นจำนวนมาก
น้ำบาดาล จึงถูกนำมาใช้ทำการเกษตรรวมทั้งสิ้นประมาณ 12,741 ล้าน ลบ.ม. / ปี คิดเป็น 86.43% ของการใช้น้ำบาดาลทั้งหมดของประเทศ
รองลงมาคือ การใช้น้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคและบริโภค โดยใช้ไปประมาณ 1,223 ล้าน ลบ.ม. / ปี คิดเป็น 8.30%
สุดท้ายคือการใช้น้ำบาดาลในการทำอุตสาหกรรม ซึ่งใช้ไปประมาณ 777 ล้าน ลบ.ม. / ปี คิดเป็น 5.27%
รวมแล้วทั้งประเทศจะใช้น้ำบาดาลไปประมาณ 14,741 ล้าน ลบ.ม. / ปี
และยังคงมีน้ำบาดาลคงเหลือประมาณ 30,645 ล้าน ลบ.ม. / ปี ที่สามารถนำมาใช้ได้อีกตามสัดส่วนที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำและกรมน้ำบาดาลอนุญาตให้ใช้
มาดูการใช้น้ำบาดาลในแต่ละพื้นที่ของประเทศไทยกันต่อนะครับ โดยเริ่มจากภาคที่ใช้น้ำบาดาลน้อยที่สุด นั่นก็คือ “ภาคตะวันออก” ครับ
“ภาคตะวันออก” มีปริมาณน้ำบาดาลที่สามารถนำมาใช้ได้ 4,662 ล้าน ลบ.ม. แต่มีการนำน้ำบาดาลมาใช้เพียง 336 ล้าน ลบ.ม. / ปี เท่านั้นเองครับ โดยจังหวัดที่ใช้น้ำบาดาลมากที่สุดคือ จ.สระแก้ว จ.จันทบุรี และ จ.ปราจีนบุรี เป็นต้น
“ภาคตะวันตก” มีปริมาณน้ำบาดาลที่สามารถนำมาใช้ได้รวม 2,718 ล้าน ลบ.ม. และมีการนำน้ำบาดาลมาใช้ประมาณ 425 ล้าน ลบ.ม. / ปี โดยจังหวัดที่ใช้น้ำบาดาลมากที่สุดคือ จ.กาญจนบุรี จ.ราชบุรี และ จ.ตาก เป็นต้น
“ภาคใต้” มีปริมาณน้ำบาดาลที่สามารถนำมาใช้ได้ 9,451 ล้าน ลบ.ม. และมีการนำน้ำบาดาลมาใช้ประโยชน์อยู่ที่ 977 ล้าน ลบ.ม. / ปี
โดยจังหวัดที่ใช้น้ำบาดาลมากที่สุดคือ จ.สงขลา จ.นครสรีธรรมราช และ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นต้น
“ภาคเหนือ” มีปริมาณน้ำบาดาลที่สามารถนำมาใช้ได้ 5,290 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งมีการนำน้ำบาดาลมาใช้ทั้งสิ้นประมาณ 1,836 ล้าน ลบ.ม. / ปี โดยจังหวัดที่ใช้น้ำบาดาลมากที่สุดคือ จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย และ จ.ลำพูน เป็นต้น
“ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” หรือภาคอีสาน ถึงแม้ว่าจะเป็นภาคที่มีพื้นที่มากที่สุด มีประชากรมากที่สุด และประสบกับปัญหาภัยแล้งทุกปี แต่ก็ยังไม่ใช่ภาคที่ใช้น้ำบาดาลมากที่สุดนะครับ โดยภาคอีสานจะมีปริมาณน้ำบาดาลที่สามารถนำมาใช้ได้อยู่ที่ 15,843 ล้าน ลบ.ม.
ซึ่งมีการนำน้ำบาดาลมาใช้ในภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และครัวเรือน รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,680 ล้าน ลบ.ม. / ปี โดยจังหวัดที่ใช้น้ำบาดาลมากที่สุดคือ จ.ศรีสะเกษ จ.อุบลราชธานี และ จ.สุรินทร์ เป็นต้น
ละภาคที่ใช้น้ำบาดาลมากที่สุดในประเทศไทยก็คือ “ภาคกลาง” นั่นเองครับ สาเหตุมาจากพื้นที่ในภาคกลางเป็นพื้นที่ราบลุ่มเหมาะแก่การเพาะปลูก ทำให้มีพื้นที่ทำการเกษตรเป็นจำนวนมาก จึงมีการใช้น้ำมากกว่าภาคอื่นๆ ซึ่งปริมาณน้ำบาดาลของภาคกลางที่เราสามารถนำมาใช้ได้ทั้งหมดนั้นอยู่ที่ 7,422 ล้าน ลบ.ม. และภาพรวมของการใช้น้ำบาดาลของทุกภาคส่วนนั้นอยู่ที่ประมาณ 6,487 ล้าน ลบ.ม. / ปี
หากเราวัดปริมาณการใช้น้ำบาดาลเฉพาะในส่วนของภาคการเกษตร จะมีการใช้น้ำอยู่ที่ประมาณ 5,581 ล้าน ลบ.ม. / ปี ซึ่งมากกว่าการใช้น้ำบาดาลทั้งหมดที่ภาคอีสานใช้กันทั้งภาคเสียด้วยซ้ำ โดยจังหวัดที่ใช้น้ำบาดาลมากที่สุดคือ จ.พิจิตร จ.นครสวรรค์ และ จ.พิษณุโลก เป็นต้น
ขอขอบคุณแหล่งที่มา: กรมทรัพยาการน้ำบาดาล
ปั๊มบาดาลตรากบ (FROG) มีการผลิตที่ทันสมัย ได้รับการวิจัย และพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการคัดเลือกวัสดุที่ดี มีคุณภาพ
ในการผลิตปั๊มบาดาล บำรุงรักษาได้ง่าย สลัดทรายสูงสุด 3% หมดห่วงปัญหาจุกจิก ด้วยการเลือกบำรุงรักษา หรือเปลี่ยนแปลงอะไหล่ แต่ละชิ้นสวน ที่ทางบริษัทฯ ได้คิดอย่างถี่ถ้วน เพื่อประหยัดงบที่บานปลายของลูกค้า ที่สำคัญยังสามารถตรวจสอบ ย้อนกลับ ส่วนประกอบอะไหล่ทุกชิ้นของปั๊มบาดาลตรากบ (FROG) ได้อีกด้วย
เรามีทีมคอยให้คำปรึกษา และแนะนำ ปั๊มบาดาล เพื่อการใช้งานที่ตอบโจทย์ อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Call Center : 02 026 6280
Line Official : @crgroupthailand หรือคลิก https://lin.ee/rTInFJ